ขอบคุณเพื่อนๆมากๆเลยนะ ที่เข้ามาเยี่ยมเยียน "

Love story

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552




โบสถ์เซนต์โซเฟีย" หรือปัจจุบันเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "สุเหร่าเซนต์โซเฟีย" ตั้งอยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ประเทศตุรกี


สำหรับโบสถ์นี้มีชื่อเต็มมาจากภาษากรีก แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ โดยคำว่า "โซเฟีย" มาจากภาษาละตินที่เปลี่ยนมาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า "ปัญญา" อีกทีหนึ่ง จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับเซนต์ที่ชื่อโซเฟียแต่อย่างใด


โบสถ์เซนต์โซเฟีย หรือสุเหร่าเซนต์โซเฟีย ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ซึ่งในอดีตเคยเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ ที่พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนตินเป็นผู้สร้าง เมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้ง เพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม จนถึงสมัยพระเจ้าจัสติเนียนมีอำนาจเหนือตุรกี จึงได้สร้างโบสถ์เซนต์โซเฟียขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี


เมื่อประมาณปี พ.ศ.1996 (ค.ศ.1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุด จึงได้พยายามหาสิ่งของมีค่าต่างๆ มาประดับไว้มากมาย และได้ทุ่มงบประมาณจำนวนมากขยายโบสถ์เซนต์โซเฟียให้ใหญ่โตชนิดที่เรียกว่าต้องใหญ่กว่าโบสถ์คริสต์ทุกแห่งในโลก หลังจากสร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่างมโหฬาร ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ทำให้แตกร้าว ต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยแบบในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน ถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ทรงเห็นว่าโบสถ์เซนต์โซเฟียนั้นของเดิมสร้างได้ใหญ่โตแข็งแรงและสวยงามอยู่แล้ว จึงไม่ทำลายเหมือนเช่นศาสนสถานแห่งอื่น หากแต่ทรงบัญชาเปลี่ยนแปลงภายในโบสถ์เสียใหม่ ให้เป็นสุเหร่าอิสลาม แต่ยังคงความงามไว้เช่นเดิม


• งดงามจนได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง
โบสถ์เซนต์โซเฟีย หรือสุเหร่าเซนต์โซเฟียแห่งนี้มีเนื้อที่ 700 ตารางเมตร ภายในมีเสางามค้ำที่สลักอย่างวิจิตรและ ประดับไว้งดงาม 108 ต้น (ชั้นบนขนาดเล็ก 68 ต้น ชั้นล่างขนาดใหญ่ 40 ต้น) มีจุดเด่นอยู่ตรงยอดที่เป็นโดมขนาดมหึมากลางวิหาร คล้ายซาลาเปา มีหอมินาเรสท์เป็นยอดแหลมๆ มากมาย เนื่องจากศิลปะแบบคริสเตียนผสมกับอิสลามนี้เอง ทำให้มีความสวยงามอันน่ามหัศจรรย์
นอกจากนี้ บรรยากาศภายในโบสถ์ค่อนข้างสลัว เพราะแสงเข้ามาน้อย แต่เย็น เพราะโครงสร้างส่วนใหญ่ทำด้วยหินอ่อน และงานโมเสกชิ้นสำคัญๆ ส่วนใหญ่อยู่ด้านขวาของโบสถ์ แต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่และอยู่สูงขึ้นไปจรดเพดาน ต้องแหงนคอดูเช่นกัน


ปัจจุบันโบสถ์เซนต์โซเฟียได้กลายเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไปแล้ว และด้วยโครงการทำโบสถ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ.1930 นี่แหละ ที่มีการค้นพบภาพโมเสกอันประมาณค่ามิได้ของโบสถ์เซนต์โซเฟีย
ถ้าใครมีโอกาสได้เข้าชมโบสถ์เซนต์โซเฟียแห่งนี้...คงจะได้รับความรู้และได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ได้ไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับความแตกต่างของสองศาสนาที่มีความขัดแย้งกันมาเป็นพันๆ ปีว่า ทำไมสามารถมารวมอยู่ในที่เดียวกันได้อย่างกลมกลืนและงดงาม

ไม่มีความคิดเห็น: